อุปกรณ์สำหรับเริ่มต้นวาดภาพ

ศิลปะ มีหลายแขนงให้ได้ศึกษาเรียนรู้ หนึ่งในนั้นคือศาสตร์ของการวาดภาพ (drawing) เป็นศาสตร์ที่เกี่ยวกับการมองเห็น ชื่นชมความงามจากฝีมือของผู้สร้างสรรค์ การวาดภาพสามารถบ่งบอกอะไรได้มากมาย ทั้งมุมมอง ความเข้าใจ การตีความ ความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์ ฯลฯ 

ในการวาดภาพนั้นก็จะมีหลายแขนงแยกออกไปอีก เช่น วาดการ์ตูน (Manga) วาดภาพสีน้ำ (Water color) วาดภาพคนเหมือน (Portrait) วาดลวดลาย (Pattern Design) ทั้งแนวลายไทย ลายเส้นจีน ลายแบบญี่ปุ่น จนไปถึงการวาดภาพบนคอมพิวเตอร์ (Digital Painting) หรือบางคนก็สามารถนำตัวอักษรมาตกแต่งเป็นศิลปะ (Calligraphy) 

 

โดยการจะเริ่มวาดภาพนั้น สำหรับผู้ที่สนใจแต่ยังไม่ทราบว่าจะเริ่มอย่างไรดี สิ่งแรกที่จำเป็นต้องมีก็คือการทำความรู้จักกับอุปกรณ์พื้นฐานเสียก่อน

1.กระดาษ

หากเริ่มต้น ไม่จำเป็นต้องใช้กระดาษราคาแพง ควรเริ่มจากกระดาษที่มีราคาถูก จะคุ้มค่ากว่า เพราะว่าช่วงแรกสิ่งที่ต้องฝึกคือการควบคุมลายเส้น กล้ามเนื้อมือ ให้สามารถขีดเส้นตรง เส้นโค้ง วาดเรขาคณิต 2 มิติง่ายๆให้ได้ก่อน กระดาษมีขนาดสากลที่นิยมใช้คือ A3 A4 A5 โดยอยากแนะนำที่ A4 ก่อน เพราะว่ามีขนาดที่กว้างพอจะให้ฝึกลากเส้นยาวๆ ได้ ซึ่งการลากเส้นต่างๆ จะมีการเคลื่อนไหวของข้อต่ออยู่ 3 ประเภท คือ ข้อนิ้ว (ใช้เขียนเส้นเล็กๆ เช่น ตัวอักษร) ข้อมือ (ใช้ขีดเส้นขนาดกลาง เช่น ร่างวงกลม สี่เหลี่ยม) และข้อศอก ใช้ขีดเส้นยาวที่มีขนาดใหญ่เกือบเต็มหน้ากระดาษ อีกเรื่องหนึ่งที่ควรทราบก็คือ ความหนาของกระดาษ ซึ่งมีหน่วยเป็น แกรม สามารถเริ่มใช้ที่ 60 80 แกรม (ยังไม่ต้องถึง 100 แกรม) เราจะเพิ่มแกรมก็ต่อเมื่อเราเริ่มใช้อุปกรณ์ที่เป็นน้ำหมึก หรือ สีไม้ทีหลัง จะทำให้คุณภาพงานดีกว่าใช้กระดาษที่มีแกรมน้อย

2.ดินสอ

อุปกรณ์สำคัญที่มักจะต้องใช้ ในการฝึก สามารถเริ่มได้จากดินสอไม้ ธรรมดา หรือจะดินสอกดก็ได้ แต่ถ้าให้ดีควรเริ่มจากดินสอไม้ เพราะจะทำให้รู้จักกับความแหลมและความทู่ของดินสอ ที่สามารถให้ลายเส้นที่ต่างกันไป อารมณ์ของการเหลาดินสอ ก็เป็นส่วนหนึ่งของงานศิลป์ เพราะจุดมุ่งหมายของการเหลาคือความแหลมคม ที่ต้องใช้ความใจเย็นและน้ำหนักที่พอดีในการเหลา หากเหลาน้อยไป ก็อาจจะได้ความแหลมไม่มากพอ หากเหลามากไปก็อาจทำให้เปลืองไส้ดินสอ เหลาแรงไปก็สามารถทำให้ไส้หักได้ ดังนั้นการเหลาดินสอเป็นจุดเริ่มต้นแรกๆของสมาธิ โดยดินสอนั้นมีให้เลือกความเข้มหลายระดับ ที่นิยมก็คือ HB และ 2B 

สำหรับ HB นั้นจะใช้ร่างภาพ เพราะมีความบาง ลบออกง่าย ส่วน 2B ก็สามารถนำมาใช้ในการตัดเส้นให้ดูเข้มขึ้นและชัดขึ้นได้ ส่วนดินสอกดนั้นมีไว้เพื่อการร่างภาพเช่นเดียวกัน เพียงแต่ประหยัดเวลาในการเหลาดินสอ กล่าวคือถ้าเราต้องการวาดภาพที่เป็นแนวแรเงา เช่น งานภาพเหมือน ควรใช้ดินสอไม้ ส่วนถ้าเราอยากวาดการ์ตูนมังงะ ที่เน้นไปที่ลายเส้น ก็เหมาะที่จะใช้ดินสอกด

 

3.ยางลบ

เป็นอุปกรณ์จำเป็นที่ขาดไม่ได้ ยางลบในท้องตลาดมักจะมีทั้งสีขาวและสีดำ จากการทดลองใช้ส่วนตัวขอแนะนำให้เลือกซื้อยางลบที่มีสีขาวมากกว่า เพราะบางครั้งยางลบสีดำ หากอยู่ในความร้อนนานๆจะเกิดการละลาย และทำให้สีดำนั้น เปื้อนกระดาษเปื้อนงานที่กำลังวาดอยู่ก็ได้ ยางลบใช้ในตอนที่ร่างภาพ อันที่จริงเมื่อเราเริ่มวาดท่าทางสัดส่วนของมนุษย์ เช่นการยืน การเดิน ยกแขน ยกขา หากฝึกใหม่ๆจะไม่คุ้นชินกับขนาดและสัดส่วน จึงต้องลองร่าง แล้วมองภาพ ดังนั้นถ้าร่างแล้วยังไม่สวยพอ หรือไม่ถูกสัดส่วน ก็ต้องใช้ยางลบ ยางลบมีทั้งแบบก้อนสี่เหลี่ยม และแบบแท่งกลม ที่สวมอยู่กับด้ามจับ มักจะเอาไว้ลบรายละเอียดเล็กๆ ส่วนแท่งยางลบก้อนใหญ่ก็ใช้ลบลายเส้นที่มีขนาดใหญ่ หรืออาจจะลบลายเส้นทั้งหมดเมื่อตัดเส้นด้วยปากกาดำเสร็จแล้ว

 

4.คัตเตอร์ 

ประโยชน์ของคัตเตอร์นั้นมีมากกว่าที่คิด เช่นการใช้เหลาดินสอไม้ หากไม่มีกบเหลาดินสอ โดยเฉพาะดินสอ EE ที่ไม่สามารถใช้กบเหลาดินสอได้เพราะว่าจะไม่ได้ดึงประสิทธิภาพของดินสอ EE ของมาใช้ เนื่องจาก เราต้องการเหลาเพื่อให้ไส้ดินสอ (แท่งแกรไฟต์) มีความยาวและแหลมมาก เพื่อใช้ในการแรเงา นอกจากนี้ คัตเตอร์ยังจำเป็นต่อการ ตัดยางลบ ส่วนที่เป็นความโค้งมนเมื่อใช้ไปสักพักออกไป ทำให้ได้ยางลบที่มีเหลี่ยม ที่สามารถลบลายเส้นได้ดีกว่า ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่ายางลบจะเสียหายจากการตัด เพราะงานศิลปะจำเป็นต้องเรียนรู้กลเม็ด เทคนิคเล็กๆน้อยๆเพิ่มเติมอยู่เสมอ 

 

5.กบเหลาดินสอ

ใช้เหลาดินสอ เริ่มจากกบเหลาดินสอขนาดเล็กก่อนก็ได้ เพราะช่วงแรกที่เริ่มฝึกยังไม่มีอะไรต้องเหลามากนัก
เอาไว้ค่อยเริ่มใช้สีไม้ ที่ต้องมีการเหลาจำนวนมากๆ ถึงค่อยซื้อกบเหลาแบบหมุนด้วยมือ จะช่วยทุ่นแรงได้ดีขึ้น

สำหรับอุปกรณ์พื้นฐาน ในการฝึกช่วงแรกที่ต้องมีก็คงมีเท่านี้ อุปกรณ์อื่นๆเช่น ปากกาตัดเส้น ปากกาเจลขาว สีไม้ สีน้ำ ฯลฯ  จะค่อยนำมาใช้งานในระดับที่เริ่มวาดรูปเก่งขึ้นในระยะหนึ่ง
 แม้ว่าอุปกรณ์จะสำคัญสำหรับการวาดรูป แต่การฝึกฝนและระยะเวลาในการบ่มเพาะประสบการณ์ความรู้นั้นสำคัญกว่ามาก หากอยากวาดภาพให้ดีขึ้น เก่งขึ้นก็ต้องใช้เวลาจำนวนมาก ในระดับหลัก ปีขึ้นไป ศิลปินหลายคนฝึกฝนกันตั้งแต่เด็กๆ เป็น 10 ปี หรือถ้าต้องการเพียงวาดเพื่อความสนุก ก็ไม่จำเป็นต้องโฟกัสขนาดนั้น แค่ได้วาดแล้วมีความสุขก็พอแล้ว แต่ไม้ว่าจะมีเป้าหมายอย่างไร งานศิลปะก็เป็นการใช้เวลาที่คุ้มค่า เพราะฝึกสมาธิ ฝึกการคิด ฝึกกล้ามเนื้อ การมองภาพ จินตนาการ หากทำไปเรื่อยๆจนมีฝีมือ ก็สามารถทำเป็นอาชีพหรือรายได้เสริมให้กับเราได้ด้วย ขอให้ผู้อ่านมีความสุขกับการเรียนรู้ศิลปะครับ

ใส่ความเห็น